พูดคุยกับน้องไอร่า-ชนานันท์ พิริยเลิศศักดิ์ ศิษย์เก่าคนเก่งของอนุบาลเด่นหล้า เพชรเกษม

Q: ขอแสดงความยินดีกับน้องไอร่าที่ผ่านเข้ารอบ Blind Auditions ในรายการ The Voice Kids Thailand 2020 นะคะ ความรู้สึกที่ผ่านเข้ารอบเป็นยังไงบ้างคะ
A: ตอนที่รู้ตัวว่าคู่เราผ่านเข้ารอบ ก็ต้องตอบเลยว่าดีใจ และตื่นเต้นมาก ๆ ค่ะ ตื่นเต้นตั้งแต่รู้ว่าผ่านเข้ารอบ Blind Auditions แล้วค่ะ เพราะมีคนส่งคลิปไปเยอะมาก ทั้งหมด1,200 กว่าคลิปที่ส่งเข้าไปประกวด เพื่อคัดเลือกให้เหลือแค่เกือบ 200 คนเพื่อเข้าสู่รอบแสดงสดและคัดเหลือเพียงเกือบ 100 คนเข้าสู่รอบ Blind auditions ค่ะ

Q: อะไรจุดประกายให้ไอร่าอยากไปประกวดเวที The Voice Kids Thailand 2020
A: ครูสอนร้องเพลงคุยกับคุณแม่เรื่องรายการ The Voice Kids ว่ามีรับสมัคร และปีนี้มีแยกแบบดูโอ้ และแบบเดี่ยวพร้อมเครื่องดนตรี ไอร่ากับไอรีณอยากลองประกอบมั้ย ก็เลยลองดูนะเพราะว่าอายุยังไม่เกินทั้งคู่ ปีนี้ไม่ได้จะได้เอาประสบการณ์ไว้ลงแข่งใหม่ปีหน้าค่ะ
คุณแม่เสริม: การร้องเพลงถ้าเป็นเดี่ยวก็คือมีคนเสียงดี ๆ ร้องกันเยอะมาก แต่พอร้องเป็นคู่ การร้องประสานเสียง มันไม่ได้ง่าย แต่ด้วยความที่สองคนนี้เขาเป็นพี่น้องกัน อยู่ด้วยกัน แล้วมีพื้นฐานดนตรีทั้งคู่ สมมติพอได้ยินโน๊ตหรือแค่ฟังครั้งสองครั้ง ทั้งสองคนเขาสามารถแบบคิดไลน์ประสานของเขาเอง โดยเฉพาะคนพี่เขาสามารถคิดไลน์แล้วสลับกันอัตโนมัติ แล้วพอครูสอนร้องเพลงรู้ ครูสอนร้องเพลงก็เลยบอกว่ามีประกวด The voice kids นะ แล้วปีนี้เขามีแยกแบบดูโอ้ มีแยกแบบเดี่ยวพร้อมเครื่องดนตรีด้วยนะ สนใจจะสมัครมั้ย เราก็เลยลองดูสนุกๆ เพราะอายุยังไม่เกิน ไม่ได้ปีนี้ปีหน้าก็สมัครใหม่อะไร เลยลองส่งไปค่ะ ตอนแรกก็ตกใจเหมือนกันที่รู้ว่าผ่านเข้ารอบ จุดเริ่มต้นก็มาจากคุณครูแนะนำว่า “ลองดูมั้ยอะไรประมาณนี้”

Q: สัมภาษณ์ในรายการเห็นว่าน้องไอร่ามีความสามารถด้านดนตรีที่หลากหลายมากเลยค่ะ ทำไมถึงเรียนดนตรีมากขนาดนั้นค่ะ
A: หนูคิดว่าเราต้องลองหลายๆ เครื่องดนตรี เพื่อหาสิ่งที่เราชอบและทำได้ดี อีกอย่างหนูอยากได้ประสบการณ์ใหม่ๆ กับเครื่องดนตรีด้วยค่ะ อย่างการเริ่มเล่นเปียโนก็เพราะว่าเปียโนจะเป็นพื้นฐานไปสู่การเล่นดนตรีอื่น ๆ ค่ะ หรืออย่างขิมไอร่าเล่นตั้งแต่อยู่เด่นหล้าแล้วค่ะ และก็ยังเรียนต่อเนื่องมาเรื่อย ๆ เพราะอย่างน้อยเราเป็นคนไทยอยากให้เล่นดนตรีไทยเพื่อจะได้ไม่ลืมความเป็นไทย เวลาไปเมืองนอกจะได้โชว์ให้ฝรั่งเห็น ฝรั่งก็จะแบบว่า WOW เพราะที่บ้านเขาไม่มีแบบนี้ค่ะ

Q: เล่าความรู้สึกตอนที่เรียนที่อนุบาลเด่นหล้า เพชรเกษม ไอร่าได้เรียนรู้อะไรบ้างจากเด่นหล้า
A: ถ้าพูดถึงเรื่องการร้องเพลง ช่วยไอร่าได้เยอะเลยค่ะ เพราะว่าตอนเรียนที่นี่คุณครูจะสอนด้วยการร้องเพลง ทำให้เราจำบทเรียนได้ง่าย และเราก็เลยชอบร้องเพลงมาตั้งแต่ตอนนั้นค่ะ นอกจากนั้นที่เด่นหล้าก็มีครูสอนเปียโน มีสอนขิม มีสอนไวโอรินให้เราได้เรียนเพิ่มเติมด้วยค่ะ ตอนนั้นแม่ก็สนับสนุน
คุณแม่เสริม: อีกสิ่งหนึ่งที่เด่นหล้าช่วยได้มากเลย คือคอสร์ว่ายน้ำค่ะ เพราะการว่ายน้ำช่วยเรื่องปอด นอกจากจะได้ออกกำลังกายทุกสัดส่วนแล้ว ยังทำให้น้องมีรูปร่างที่สมส่วน คือน้องเขาอาจจะอวบแต่เขาขาไม่ใหญ่ขาเพรียว ตอนไอร่าอยู่เด่นหล้า เขาจะว่ายน้ำทุกวันหลังเลิกเรียนจนได้เป็นนักกีฬาแข่งว่ายน้ำตอนอยู่เด่นหล้าค่ะ จะบอกว่าคอร์สว่ายน้ำที่เด่นหล้า เพชรเกษม ครูน่ารักมาก สอนเด็กตั้งแต่ว่ายน้ำไม่เป็นจนว่ายน้ำเป็นเกือบทุกท่า แล้วก็ช่วยสอนเรื่องการหายใจ แล้วก็ฝึกให้รู้จักช่วยเหลือตัวเองด้วยค่ะ เวลาเราไปเที่ยวต่างจังหวัดเวลาไปทะเลไปแม่น้ำ เราก็ไม่ต้องกลัวว่าลูกจะจมน้ำ นอกจากนั้นทักษะที่ได้จากการว่ายน้ำ ทำให้เขาไม่มีปัญหาเรื่องลม เพราะว่าปอดเขาใหญ่ ส่งผลไปเรื่องการร้องเพลง การเล่นดนตรีด้วยค่ะ

Q: เวทีไหนที่อนุบาลเด่นหล้า เพชรเกษม ที่น้องไอร่าประทับใจมากที่สุด
A: เวทีที่ขึ้นกับเพื่อนสนิทค่ะ ไอร่าเรียนขิม เพื่อนสนิทเรียนเปียโน เราขึ้นเล่นด้วยกัน โดยเอาเพลงร่วมสมัยกับเพลงคลาสสิกมาเล่นคู่กันค่ะ
Q: แบ่งเวลาเรียนกับเวลาฝึกฝนในสิ่งที่ชอบยังไง
A: ตอนเรียนก็จะตั้งใจเรียนค่ะ แล้วพอมีช่วงเวลาพักระหว่างวัน ไอร่าจะแบ่งเวลาไปซ้อมดนตรีบ้าง ร้องเพลงบ้างที่โรงเรียนค่ะ

Q: อยากฝากอะไรถึงน้อง ๆ อนุบาลเด่นหล้า เพชรเกษม ที่กำลังค้นหาตัวเองค่ะ
A: ถ้าค้นหาตัวเองเจอแล้วและรู้ว่าเราชอบมันจริง ๆ อยากให้เดินตามความฝันของตัวเองค่ะ ลงมือทำและตั้งใจทำให้สุดไปเลยค่ะ อย่ายอมแพ้ ลองมันไปเรื่อย ๆ จนกว่าจะถึงฝันค่ะ

Blind Auditions ในรายการ The Voice Kids Thailand 2020